ทำไมกลองถึงมีรูปทรงแบบนี้
Date : 27/11/2024
กลองเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการพัฒนามาหลายพันปี รูปทรงและการออกแบบของกลองในปัจจุบันไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างเสียงที่หลากหลายและมีพลัง แต่ยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของดนตรีและวัฒนธรรมต่างๆ การที่กลองมีรูปร่างและลักษณะเฉพาะเช่นนี้ เกิดจากความต้องการในการผลิตเสียงที่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน รวมถึงฟังก์ชันทางด้านวิศวกรรมและการออกแบบที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
1. ฟังก์ชันในการสร้างเสียง
รูปทรงของกลองมีความสำคัญต่อการผลิตเสียง โดยเฉพาะในแง่ของการสะท้อนและขยายเสียงที่เกิดขึ้นจากการตีผิวหนังหรือวัสดุที่ใช้สำหรับสร้างเสียง
โครงสร้างของตัวกลอง: กลองประกอบไปด้วยส่วนหลักๆ คือ ตัวกลอง (shell) และผิวกลอง (drumhead) ซึ่งผิวกลองจะเป็นจุดที่สัมผัสกับไม้กลองหรือมือของผู้เล่น เมื่อมีการตีผิวกลอง จะเกิดการสั่นสะเทือนและขยายเป็นเสียง เสียงที่ได้จะขึ้นอยู่กับขนาดและรูปร่างของตัวกลอง
การขยายเสียง: กลองที่มีรูปร่างกลม หรือทรงกระบอกจะช่วยให้เสียงสะท้อนจากผิวกลองกระจายออกมาได้ดี รูปร่างทรงกระบอกหรือกลมของตัวกลองช่วยให้คลื่นเสียงกระจายอย่างทั่วถึงและมีมิติ เสียงที่ได้จึงมีความกังวานและเต็มอิ่ม นอกจากนี้ การออกแบบให้มีขอบด้านล่างที่เปิดช่วยให้เสียงสะท้อนออกมาอย่างเสรี ไม่ถูกจำกัด

2. การเลือกวัสดุและขนาด
วัสดุที่ใช้ทำตัวกลองและผิวกลองเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเสียงที่ได้ วัสดุที่นิยมใช้ในการทำตัวกลองมีหลายประเภท เช่น ไม้, พลาสติก, และโลหะ ซึ่งแต่ละวัสดุก็ให้เสียงที่แตกต่างกันไป
ไม้: ตัวกลองที่ทำจากไม้ เช่น กลองสแนร์ (snare drum) หรือกลองทอม (tom-tom drum) จะให้เสียงที่อบอุ่นและมีมิติ ไม้มีความยืดหยุ่นและช่วยสะท้อนเสียงได้ดี
โลหะ: กลองที่ทำจากโลหะ เช่น กลองเบส (bass drum) หรือกลองคองกา (conga drum) จะให้เสียงที่ทรงพลังและมีความหนักแน่น โลหะช่วยเพิ่มความชัดเจนและความคมชัดของเสียง
พลาสติก: ผิวกลองในปัจจุบันมักทำจากพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน ซึ่งช่วยให้การตีผิวกลองมีความสะดวกและสามารถควบคุมเสียงได้ดี

3. รูปร่างของกลองตามการใช้งาน
กลองแต่ละประเภทจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและลักษณะของเสียงที่ต้องการ
กลองสแนร์ (Snare Drum): กลองสแนร์มักจะมีรูปร่างเป็นกระบอกทรงกลม ซึ่งมีขนาดเล็กและสูง เสียงที่ได้จากกลองชนิดนี้จะมีความคมชัดและทุ้มต่ำ ซึ่งเป็นผลจากการที่ผิวกลองมีความตึงและมีการติดตั้งสปริงหรือสายเคเบิลที่ด้านล่างของกลอง (snare wires) ซึ่งช่วยให้เกิดเสียงกระทบและความแหลมสูง
กลองเบส (Bass Drum): กลองเบสที่มีขนาดใหญ่และทรงกระบอกช่วยให้ได้เสียงที่หนักแน่นและทรงพลัง กลองเบสใช้ในการให้จังหวะที่มีความถี่ต่ำและมักจะใช้กับวงดนตรีในสไตล์ต่างๆ เช่น วงดนตรีซิมโฟนี หรือวงดนตรีร็อก
กลองทอม (Tom-Tom Drum): กลองทอมมีขนาดและรูปร่างที่หลากหลาย โดยมีทั้งแบบที่ตั้งและแบบที่ห้อยในชุดกลอง กลองทอมมักจะมีเสียงที่อบอุ่นและนุ่มนวล กลองชนิดนี้ใช้ในการเล่นซาวด์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะในการสร้างจังหวะหรือในการแสดงเดี่ยว

4. วิวัฒนาการของกลอง
รูปร่างของกลองในปัจจุบันไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากการพัฒนาและการทดลองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายร้อยปี
กลองในประวัติศาสตร์: กลองเริ่มต้นจากการใช้กระป๋องหรือวัสดุธรรมชาติ เช่น กิ่งไม้และเปลือกไม้ที่ขึงด้วยหนังสัตว์เพื่อสร้างเสียง ซึ่งใช้ในพิธีกรรมต่างๆ และการติดต่อสื่อสารในสมัยโบราณ
การปรับเปลี่ยนวัสดุ: เมื่อเวลาผ่านไป การใช้วัสดุที่ทนทานและสามารถผลิตเสียงได้ดี เช่น ไม้ โลหะ และพลาสติก มีการพัฒนาขึ้นในยุคต่างๆ เพื่อเพิ่มความคงทนและประสิทธิภาพในการเล่น
การออกแบบตามฟังก์ชัน: การออกแบบที่หลากหลายของกลองแต่ละประเภทเกิดขึ้นจากการทดลองและความต้องการในเชิงเสียงและความสะดวกในการใช้งาน กลองที่มีรูปร่างกลมหรือทรงกระบอกช่วยให้สามารถควบคุมเสียงได้ดีและสะท้อนความต้องการในช่วงต่างๆ ของการเล่นดนตรี

5. ความสำคัญของการออกแบบในการควบคุมเสียง
รูปทรงของกลองช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมเสียงและการตอบสนองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของกลองประเภทต่างๆ ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน
การควบคุมเสียง: รูปทรงของกลองและการจัดวางสปริง หรือส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ซาวด์วาล์ว (sound valves) หรือการปรับความตึงของผิวกลอง ช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมคุณภาพของเสียงได้ เช่น การเล่นเสียงทุ้มต่ำหรือเสียงแหลมสูง
การออกแบบที่สะดวกต่อการใช้งาน: รูปทรงของกลองยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างสะดวกและคล่องตัว การออกแบบให้กลองมีขนาดที่เหมาะสมกับการตั้งหรือห้อย ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงและเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป
การออกแบบรูปทรงของกลองไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการปรับปรุงและพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการในการสร้างเสียงที่หลากหลาย กลองแต่ละประเภทมีการออกแบบที่ตอบสนองการเล่นในลักษณะต่างๆ ทั้งการสะท้อนเสียง, การควบคุมเสียง, และความสะดวกในการใช้งาน โดยรูปร่างทรงกระบอกหรือกลมของกลองช่วยให้สามารถสร้างเสียงที่มีมิติและคมชัด การเลือกวัสดุและขนาดของกลองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กลองสามารถตอบสนองต่อความต้องการทางดนตรีได้อย่างดีเยี่ยม