เลือกไม้กลองยังไงให้เหมาะกับเรา
Date : 28/12/2024
การเลือกไม้กลองเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่นักกลองทุกคนต้องใส่ใจ เพราะไม้กลองที่ดีจะช่วยให้การเล่นกลองมีประสิทธิภาพและความสนุกมากขึ้น หากเลือกไม้กลองที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง อาจทำให้การเล่นกลองยากขึ้น หรืออาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่มือและข้อมือได้ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพาไปดูวิธีการเลือกไม้กลองที่เหมาะสมกับตัวเรากัน
![](https://drumaudiothai.com/asset/images/imageStock/myImages/8297/เลือกไม้กลองยังไงให้เหมาะกับเรา_01_653105.jpg)
1. เลือกไม้กลองตามประเภทของการเล่น
การเลือกไม้กลองควรพิจารณาจากประเภทของดนตรีที่เราจะเล่น โดยไม้กลองแต่ละประเภทจะเหมาะกับสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน
การเลือกไม้กลองควรพิจารณาจากประเภทของดนตรีที่เราจะเล่น โดยไม้กลองแต่ละประเภทจะเหมาะกับสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน
ไม้กลองสำหรับดนตรีร็อก: นักกลองที่เล่นดนตรีร็อกมักจะเลือกไม้กลองที่มีขนาดใหญ่และหนัก เช่น ขนาด 5B หรือ 2B เพื่อให้สามารถสร้างเสียงที่ดังและหนักแน่นได้
ไม้กลองสำหรับดนตรีแจ๊ส: นักกลองที่เล่นแจ๊สมักจะเลือกไม้กลองที่มีขนาดเล็กและเบากว่า เช่น ขนาด 7A หรือ 5A เพื่อให้การเล่นมีความคล่องตัวและสามารถควบคุมเสียงได้ดี
ไม้กลองสำหรับดนตรีป๊อปหรือฟังก์: อาจจะเลือกไม้กลองที่มีขนาดกลาง เช่น 5B หรือ 5A ซึ่งจะให้ความสมดุลระหว่างความหนักและความเบาในการเล่น
ไม้กลองสำหรับดนตรีแจ๊ส: นักกลองที่เล่นแจ๊สมักจะเลือกไม้กลองที่มีขนาดเล็กและเบากว่า เช่น ขนาด 7A หรือ 5A เพื่อให้การเล่นมีความคล่องตัวและสามารถควบคุมเสียงได้ดี
ไม้กลองสำหรับดนตรีป๊อปหรือฟังก์: อาจจะเลือกไม้กลองที่มีขนาดกลาง เช่น 5B หรือ 5A ซึ่งจะให้ความสมดุลระหว่างความหนักและความเบาในการเล่น
2. ความยาวของไม้กลอง
ความยาวของไม้กลองมีผลต่อการควบคุมและแรงกระแทกในการเล่น โดยทั่วไปแล้วไม้กลองที่ยาวจะช่วยให้สามารถควบคุมการเล่นได้ดีขึ้นและให้แรงกระแทกที่มากขึ้น ขณะที่ไม้กลองที่สั้นจะให้ความคล่องตัวและความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวของมือ
ไม้กลองยาว: เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความหนักแน่นและการควบคุมที่ดี
ไม้กลองสั้น: เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัว
ไม้กลองสั้น: เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความรวดเร็วและคล่องตัว
3. ขนาดและรูปร่างของปลายไม้กลอง
ปลายไม้กลองมีผลต่อเสียงและความรู้สึกในการเล่น โดยปลายไม้กลองที่มีขนาดใหญ่จะให้เสียงที่ดังกว่าและหนักกว่า ขณะที่ปลายไม้กลองที่เล็กจะให้เสียงที่คมชัดและมีความแม่นยำมากขึ้น
ปลายไม้กลองใหญ่: ให้เสียงหนัก เหมาะสำหรับดนตรีที่ต้องการเสียงที่หนักแน่น เช่น ร็อก
ปลายไม้กลองเล็ก: ให้เสียงคมชัด เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความละเอียด เช่น แจ๊ส
ปลายไม้กลองเล็ก: ให้เสียงคมชัด เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความละเอียด เช่น แจ๊ส
4. น้ำหนักของไม้กลอง
น้ำหนักของไม้กลองมีผลต่อความสบายในการเล่น หากไม้กลองหนักเกินไปอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าและไม่สะดวกในการเล่น ขณะที่ไม้กลองที่เบาจะทำให้เล่นได้เร็วขึ้นและคล่องตัว แต่ก็อาจขาดความหนักหน่วงในการตี
ไม้กลองหนัก: เหมาะสำหรับการตีที่ต้องการแรงกระแทกและเสียงที่หนักแน่น
ไม้กลองเบา: เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความเร็วและความคล่องตัว
ไม้กลองเบา: เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความเร็วและความคล่องตัว
5. วัสดุของไม้กลอง
วัสดุที่ใช้ทำไม้กลองมีหลายประเภท เช่น ไม้เมเปิ้ล (Maple), ไม้โอ๊ค (Oak) และไม้ฮิคอรี่ (Hickory) ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ไม้เมเปิ้ล: เบาและมีเสียงที่คมชัด เหมาะกับการเล่นที่ต้องการความเร็วและคล่องตัว
ไม้โอ๊ค: หนักและทนทาน เหมาะกับการเล่นที่ต้องการแรงกระแทกและความทนทานสูง
ไม้ฮิคอรี่: เป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความทนทานสูงและให้เสียงที่ดี เหมาะกับทุกประเภทของการเล่น
ไม้โอ๊ค: หนักและทนทาน เหมาะกับการเล่นที่ต้องการแรงกระแทกและความทนทานสูง
ไม้ฮิคอรี่: เป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความทนทานสูงและให้เสียงที่ดี เหมาะกับทุกประเภทของการเล่น
6. ลองไม้กลองก่อนซื้อ
การลองไม้กลองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหาว่าไม้กลองไหนที่เหมาะสมกับเรา เนื่องจากความรู้สึกในการจับและการเล่นจะต่างกันไปในแต่ละคน
ทดลองจับไม้กลองเพื่อดูความรู้สึกในการถือ
ลองตีไม้กลองบนกลองจริงหรือที่พื้นผิวที่เหมาะสมเพื่อทดสอบความสบายในการเล่น
ทดสอบเสียงที่ออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าเสียงที่ได้ตรงกับความต้องการ
ลองตีไม้กลองบนกลองจริงหรือที่พื้นผิวที่เหมาะสมเพื่อทดสอบความสบายในการเล่น
ทดสอบเสียงที่ออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าเสียงที่ได้ตรงกับความต้องการ
7. สไตล์การเล่นและความชอบส่วนบุคคล
สุดท้ายแล้ว การเลือกไม้กลองก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นและความชอบส่วนบุคคล บางคนอาจชอบไม้กลองที่มีน้ำหนักเบาและยาว บางคนอาจชอบไม้กลองที่มีปลายใหญ่และหนัก การทดลองและค้นหาความชอบจะช่วยให้เราเลือกไม้กลองที่เหมาะสมที่สุด
สรุป
การเลือกไม้กลองที่เหมาะสมกับตัวเองนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของดนตรีที่เล่น, ความยาวและน้ำหนักของไม้กลอง, รูปร่างปลายไม้กลอง, และวัสดุที่ใช้ในการผลิตไม้กลอง การทดลองและค้นหาความรู้สึกที่ดีที่สุดในการเล่นกลองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะไม้กลองที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสนุกในการเล่นดนตรีของเราอย่างมาก
การเลือกไม้กลองที่เหมาะสมกับตัวเองนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของดนตรีที่เล่น, ความยาวและน้ำหนักของไม้กลอง, รูปร่างปลายไม้กลอง, และวัสดุที่ใช้ในการผลิตไม้กลอง การทดลองและค้นหาความรู้สึกที่ดีที่สุดในการเล่นกลองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะไม้กลองที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสนุกในการเล่นดนตรีของเราอย่างมาก