สร้างเสียงกลองไฟฟ้าของคุณเองด้วย Sampling และ Looping
อัปเดตล่าสุด : 01/04/2025
กลองไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่มอบความยืดหยุ่นและความสร้างสรรค์ให้กับผู้เล่น โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการปรับแต่งเสียงและการสร้างจังหวะที่ไม่ซ้ำใคร Sampling และ Looping คือสองเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถออกแบบเสียงกลองและสร้างบีตที่โดดเด่นได้ตามสไตล์ของตัวเอง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อสร้างเสียงกลองไฟฟ้าที่ไม่เหมือนใคร

ทำความรู้จักกับ Sampling และ Looping
Sampling คืออะไร?
Sampling คือการบันทึกเสียงจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เสียงกลองจริง เสียงจากธรรมชาติ หรือเสียงจากเพลง แล้วนำมาใช้งานในรูปแบบไฟล์เสียง โดยคุณสามารถนำไฟล์เสียงนี้มาเล่นบนกลองไฟฟ้าหรือปรับแต่งให้เป็นเสียงใหม่ที่สร้างสรรค์
Looping คืออะไร?
Looping คือการเล่นซ้ำเสียงหรือจังหวะในลูปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นจังหวะสำหรับเพลงหรือการแสดงสด ช่วยให้คุณสามารถสร้างบีตที่ซับซ้อนหรือเพิ่มชั้นเสียงได้ง่าย
Looping คือการเล่นซ้ำเสียงหรือจังหวะในลูปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นจังหวะสำหรับเพลงหรือการแสดงสด ช่วยให้คุณสามารถสร้างบีตที่ซับซ้อนหรือเพิ่มชั้นเสียงได้ง่าย
อุปกรณ์และโปรแกรมที่คุณต้องการ
กลองไฟฟ้าที่รองรับ Sampling และ Looping
ตรวจสอบว่าโมดูลเสียงของกลองไฟฟ้าคุณสามารถโหลดไฟล์เสียง (Sample) และตั้งค่าการเล่นลูปได้
ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการเสียง
ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการเสียง
Audacity: โปรแกรมฟรีสำหรับบันทึกและตัดต่อเสียง
Ableton Live: ซอฟต์แวร์ยอดนิยมสำหรับการสร้างและจัดการ Loop
Logic Pro หรือ FL Studio: สำหรับการสร้างบีตและปรับแต่งเสียง
Ableton Live: ซอฟต์แวร์ยอดนิยมสำหรับการสร้างและจัดการ Loop
Logic Pro หรือ FL Studio: สำหรับการสร้างบีตและปรับแต่งเสียง
ไมโครโฟนหรืออุปกรณ์บันทึกเสียง
ใช้สำหรับบันทึกเสียงจากแหล่งต่าง ๆ หากคุณต้องการสร้าง Sample เอง
USB หรือ SD Cardใช้สำหรับถ่ายโอนไฟล์เสียงจากคอมพิวเตอร์ไปยังโมดูลเสียงของกลองไฟฟ้า
USB หรือ SD Cardใช้สำหรับถ่ายโอนไฟล์เสียงจากคอมพิวเตอร์ไปยังโมดูลเสียงของกลองไฟฟ้า
ขั้นตอนการสร้างเสียง Sampling
เลือกแหล่งเสียงที่ต้องการบันทึกเสียงจากกลองอะคูสติก หรือใช้เสียงจากธรรมชาติ เช่น เสียงฝน เสียงนก หรือเสียงเคาะโลหะตัดต่อและปรับแต่งเสียงใช้โปรแกรมตัดต่อเสียงเพื่อลดเสียงรบกวน และปรับความดังหรือความถี่ของเสียงตามที่ต้องการแปลงไฟล์ให้เหมาะสมบันทึกเสียงในรูปแบบไฟล์ที่โมดูลเสียงรองรับ เช่น WAV หรือ MP3อัปโหลดเสียงเข้าสู่โมดูลเสียงของกลองไฟฟ้าถ่ายโอนไฟล์ผ่าน USB หรือ SD Card แล้วตั้งค่าให้ Sample นั้นเล่นเมื่อคุณตีแป้นกลองขั้นตอนการสร้างจังหวะด้วย Loopingบันทึกจังหวะพื้นฐานใช้กลองไฟฟ้าของคุณเล่นจังหวะที่ต้องการ และบันทึกเสียงด้วยฟังก์ชัน Loopเพิ่มชั้นเสียง (Layering)เล่นจังหวะใหม่หรือเสียงอื่น ๆ ซ้อนทับบน Loop เดิม เช่น การเพิ่มเสียง Hi-Hat หรือเสียงเคาะพิเศษปรับแต่งจังหวะในซอฟต์แวร์ใช้ซอฟต์แวร์จัดการ Loop เพื่อตัดต่อหรือปรับความเร็วของลูปใช้ Loop ในการแสดงสดตั้งค่า Loop ที่สร้างไว้ให้พร้อมใช้งาน และเล่นจังหวใหม่ ๆ สด ๆ ร่วมกับ Loopเคล็ดลับการสร้างเสียงกลองไฟฟ้าให้ไม่เหมือนใครผสมผสานเสียงที่แตกต่างทดลองรวมเสียงที่ไม่คาดคิด เช่น เสียงจากธรรมชาติกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ปรับแต่ง EQ เอฟเฟกต์
ใช้ EQ, Reverb หรือ Distortion เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของเสียงสร้าง Loop ที่โดดเด่นเน้นจังหวะที่มีเอกลักษณ์ หรือใช้การเล่นข้ามจังหวะเพื่อเพิ่มความซับซ้อนทดลองและสนุกกับกระบวนการการสร้างเสียงเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ลองผิดลองถูกเพื่อค้นหาเสียงที่ใช่สำหรับคุณ
สรุป
การใช้ Sampling และ Looping ในการสร้างเสียงกลองไฟฟ้าจะช่วยให้คุณสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และออกแบบเสียงที่สะท้อนตัวตนของคุณได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ เทคนิคเหล่านี้จะทำให้การเล่นกลองไฟฟ้าของคุณสนุกและน่าสนใจยิ่งขึ้น