รีวิวเสียงแต่ละแบบใน Roland TD Series – ฟีลเป็นยังไง
อัปเดตล่าสุด : 03/09/2025
ถ้าคุณเป็นมือกลองที่เคยลองกลองไฟฟ้าของ Roland โดยเฉพาะตระกูล TD Series คุณคงรู้ว่าเรื่อง “เสียง” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้คนหลงรักแบรนด์นี้ Roland ไม่ได้ทำแค่เสียงกลองที่สมจริง แต่ยังใส่รายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่หลังชุดกลองจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงตีเบา ตีแรง เสียงไม้กระทบขอบ หรือแม้แต่เสียงแฉสั่นปลายโน้ต วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า เสียงแต่ละแบบใน Roland TD Series ให้ฟีลแบบไหน และเหมาะกับการเล่นสไตล์อะไรบ้าง

เสียงอะคูสติกดั้งเดิม (Acoustic Drum Kits)
-นี่คือเสียงหลักที่คนส่วนใหญ่ใช้กันใน TD Series Roland บันทึกเสียงจากชุดกลองจริงหลายแบรนด์ และปรับแต่งด้วยเทคโนโลยี Prismatic Sound Modeling
-ฟีลการเล่น: ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งตีกลองอะคูสติกจริง มีการตอบสนองตามแรงตีแบบไดนามิกมาก ๆ ตีเบาก็ได้เสียงนุ่ม ตีแรงก็ระเบิดพลัง
-จุดเด่น: เสียงกลองใหญ่ (Kick) หนักแน่น กลองเล็ก (Snare) มีความก้องและแห้งให้เลือกหลายแบบ แฉมีรายละเอียดของการสั่นปลาย
-เหมาะกับ: Rock, Pop, Blues, Jazz ที่ต้องการความสมจริง
เสียงสตูดิโอโมเดิร์น (Modern Studio Kits)
-เสียงชุดนี้ออกแบบมาให้ใส เคลียร์ และผ่านการปรับ EQ กับคอมเพรสเซอร์เรียบร้อย เหมือนเสียงที่อัดในสตูดิโอมืออาชีพ
-ฟีลการเล่น: ตอบสนองไว เล่นแล้วรู้สึก "จบในตัว" ไม่ต้องแต่งเสียงเพิ่ม
-จุดเด่น: กลองเล็กมีโทนคมชัด กลองทอมฟังดู “ใหญ่” และชัดเจน แฉมีโทนใสไม่บาดหู
-เหมาะกับ: เพลง Pop, R&B, Funk หรือการซ้อมที่ต้องการเสียงเคลียร์ ๆ
เสียงไลฟ์คอนเสิร์ต (Live Stage Kits)
-เสียงแบบนี้ถูกปรับให้ “ทะลุลำโพง” และเด่นชัดบนเวที
-ฟีลการเล่น: ตีแล้วรู้สึกมีพลัง เหมือนเสียงกลองกำลังวิ่งผ่าน PA system ขนาดใหญ่
-จุดเด่น: กลองใหญ่พุ่งทะลุ เบสหนาแน่น กลองเล็กชัดทุกจังหวะแม้เล่นเร็ว
-เหมาะกับ: Rock Concert, Metal, การแสดงสดกลางแจ้ง
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Kits)
-Roland ใส่เสียงอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ยุค 80s ไปจนถึง EDM สมัยใหม่ ทั้ง TR-808, TR-909, และซาวด์ EDM แบบโมเดิร์น
-ฟีลการเล่น: เสียงตรงและสั้น เล่นแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในเพลงแดนซ์หรือคลับ
-จุดเด่น: Kick อัดแน่นไม่ฟุ้ง Snare แห้งและชัด สามารถเล่น Loop หรือ Trigger เสียงเสริมได้
-เหมาะกับ: EDM, Hip-Hop, Synthwave, Trap
เสียงเอฟเฟกต์สร้างสรรค์ (Special & SFX Kits)
-เสียงแบบนี้จะหลุดจากความเป็นกลองจริง มีทั้งเสียงเอฟเฟกต์ ฟิลเตอร์ เสียงเครื่องเพอร์คัสชั่นจากทั่วโลก
-ฟีลการเล่น: เหมือนถือกลองที่สามารถพาเราไปได้ทุกทวีปและทุกยุคสมัย
-จุดเด่น: ใส่ครีเอทีฟได้เต็มที่ เช่น ใช้เสียงท้องฟ้าฟ้าร้องผสมกับกลอง หรือกลองบองโก้กับซาวด์ซินธ์
-เหมาะกับ: เพลงประกอบภาพยนตร์, การแสดงโชว์พิเศษ, เพลงทดลอง (Experimental)
เสียงจำลองสภาพห้อง (Ambience & Room Settings)
-แม้จะไม่ใช่ “ชุดเสียง” โดยตรง แต่การปรับ Ambience ใน TD Series ช่วยเปลี่ยนฟีลเสียงได้มาก
-ฟีลการเล่น: จากซ้อมในห้องซ้อมเล็ก ๆ ไปจนถึงอยู่ในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ได้เพียงแค่หมุนปุ่ม
-จุดเด่น: เสียงสะท้อนช่วยเพิ่มมิติ ทำให้เสียงอะคูสติกสมจริงยิ่งขึ้น
-เหมาะกับ: ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น ซ้อมเงียบ ๆ หรือโชว์ใหญ่
สรุป
Roland TD Series ไม่ได้ให้แค่ “เสียงกลอง” แต่ให้ ประสบการณ์และฟีล ที่แตกต่างกันตามชุดเสียงที่เลือก เสียงอะคูสติกให้ความสมจริงเหมือนเล่นกลองไม้ เสียงสตูดิโอคมชัดทันทีโดยไม่ต้องแต่ง เสียงไลฟ์คอนเสิร์ตพลังล้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์สร้างโลกอีกแบบ และเสียงเอฟเฟกต์ก็เปิดพื้นที่ให้สร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด
Roland TD Series ไม่ได้ให้แค่ “เสียงกลอง” แต่ให้ ประสบการณ์และฟีล ที่แตกต่างกันตามชุดเสียงที่เลือก เสียงอะคูสติกให้ความสมจริงเหมือนเล่นกลองไม้ เสียงสตูดิโอคมชัดทันทีโดยไม่ต้องแต่ง เสียงไลฟ์คอนเสิร์ตพลังล้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์สร้างโลกอีกแบบ และเสียงเอฟเฟกต์ก็เปิดพื้นที่ให้สร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด
พูดง่าย ๆ คือ Roland ออกแบบเสียงให้ครอบคลุมทุกสไตล์ ทุกอารมณ์ ไม่ว่าคุณจะเล่นเพื่อซ้อม อัดเพลง หรือขึ้นเวที ก็สามารถเลือกชุดเสียงที่ “ฟีลตรงใจ” ได้เสมอ