กลองไฟฟ้ามือสอง คุ้มไหม?
อัปเดตล่าสุด : 03/09/2025
หลายคนที่อยากเริ่มเล่นกลองไฟฟ้า คงเคยลังเลใจระหว่าง “ซื้อกลองไฟฟ้าใหม่” หรือ “หามือสอง” ซึ่งแน่นอนว่ากลองไฟฟ้ามือสองราคาจะถูกกว่ามือหนึ่งพอสมควร แต่คำถามใหญ่ที่ตามมาคือ...มันคุ้มค่าจริงไหม? หรือจะกลายเป็นการเสียเงินฟรีถ้าได้ของที่สภาพไม่ดี บทความนี้เราจะพามาเจาะลึกข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเช็กกลองไฟฟ้ามือสองก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้คุณได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุดว่ามือสอง “คุ้ม” หรือ “ไม่คุ้ม” กันแน่
✅ ข้อดีของกลองไฟฟ้ามือสอง
ราคาประหยัดกว่ามือหนึ่งมาก
กลองไฟฟ้าใหม่รุ่นกลาง–สูงราคาหลักหมื่นถึงหลายหมื่น แต่ถ้าซื้อมือสองอาจได้ในราคาถูกลง 30–50% หรือมากกว่านั้น เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจริงจังแค่ไหน
กลองไฟฟ้าใหม่รุ่นกลาง–สูงราคาหลักหมื่นถึงหลายหมื่น แต่ถ้าซื้อมือสองอาจได้ในราคาถูกลง 30–50% หรือมากกว่านั้น เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจริงจังแค่ไหน
อัปเกรดได้ง่าย
บางครั้งคนขายอาจแถมอุปกรณ์เสริม เช่น แป้น Mesh Pad, ก้านไม้, หรือกระเดื่องคู่ ทำให้ผู้ซื้อคุ้มค่ากว่าซื้อมือหนึ่งที่ให้มาแค่ของพื้นฐาน
บางครั้งคนขายอาจแถมอุปกรณ์เสริม เช่น แป้น Mesh Pad, ก้านไม้, หรือกระเดื่องคู่ ทำให้ผู้ซื้อคุ้มค่ากว่าซื้อมือหนึ่งที่ให้มาแค่ของพื้นฐาน
ได้รุ่นสูงในราคาที่จับต้องได้
หลายครั้งมือสองช่วยให้เราเข้าถึงรุ่นท็อปที่ใหม่เกินงบได้ เช่น จากที่ซื้อได้แค่รุ่นเริ่มต้นมือหนึ่ง อาจขยับไปเล่นรุ่นกลางหรือสูงที่มือสองแทน
หลายครั้งมือสองช่วยให้เราเข้าถึงรุ่นท็อปที่ใหม่เกินงบได้ เช่น จากที่ซื้อได้แค่รุ่นเริ่มต้นมือหนึ่ง อาจขยับไปเล่นรุ่นกลางหรือสูงที่มือสองแทน
⚠️ ข้อควรระวังก่อนซื้อกลองไฟฟ้ามือสอง
-อายุการใช้งานของ Pad และ Module
-แผ่นกลอง (Pad) โดยเฉพาะแบบ Rubber อาจสึกหรอเร็ว ทำให้แรงเด้งไม่เหมือนเดิม
-Module (ตัวสมองกลอง) หากใช้งานมาหนัก อาจมีปัญหาเรื่องปุ่มกดติดบ้างหรือเสียงขาด ๆ หาย ๆ
-ปัญหาสายไฟและ Triggerสายสัญญาณที่เชื่อมจาก Pad ไปยัง Module มักเป็นจุดอ่อน หากมีการดัดงอหรือเก็บไม่ดี อาจเกิดอาการ "ตีแล้วไม่ออกเสียง"
-ไม่มีประกันต่างจากมือหนึ่งที่มาพร้อมการรับประกัน 1–2 ปี มือสองส่วนใหญ่จะหมดประกันแล้ว ถ้าเสียต้องซ่อมเอง
-ความเสี่ยงเรื่องการซ่อมและหาอะไหล่ถ้าเป็นรุ่นเก่ามาก ๆ อะไหล่หรือชิ้นส่วนทดแทนอาจหายาก และค่าซ่อมบางครั้งใกล้เคียงกับการซื้อใหม่
🥁 วิธีเช็กกลองไฟฟ้ามือสองก่อนซื้อ
-ลองตีทุก Pad เช็กว่าเสียงออกครบหรือไม่ ทั้งเบาและแรง
-เช็ก Hi-Hat และ Kick Pedal เพราะมักพังง่ายที่สุด
-ดูสภาพ Module ว่าปุ่มกดลื่นไหม จอแสดงผลยังชัดเจนหรือไม่
-เช็กการเชื่อมต่อ เช่น USB/MIDI/Audio ว่ายังใช้งานได้
-ถามประวัติการใช้งาน เช่น ใช้กี่ปี เล่นบ่อยไหม เก็บอย่างไร
-ทดลองจริงก่อนซื้อ ถ้าเป็นไปได้อย่าซื้อจากรูปอย่างเดียว
สรุป
กลองไฟฟ้ามือสอง “คุ้ม” สำหรับคนที่อยากประหยัดงบ หรืออยากได้รุ่นสูงในราคาที่เอื้อมถึง แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพการใช้งานและการซ่อมแซมที่ต้องระวัง หากคุณเช็กสภาพได้ละเอียด ทดลองเล่นจริง และซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ กลองไฟฟ้ามือสองก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย แต่ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงและต้องการความสบายใจ มือหนึ่งก็ยังเป็นทางเลือกที่มั่นใจกว่า
กลองไฟฟ้ามือสอง “คุ้ม” สำหรับคนที่อยากประหยัดงบ หรืออยากได้รุ่นสูงในราคาที่เอื้อมถึง แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพการใช้งานและการซ่อมแซมที่ต้องระวัง หากคุณเช็กสภาพได้ละเอียด ทดลองเล่นจริง และซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ กลองไฟฟ้ามือสองก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อย แต่ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงและต้องการความสบายใจ มือหนึ่งก็ยังเป็นทางเลือกที่มั่นใจกว่า
