เล่นสดด้วยกลองไฟฟ้าเชื่อมต่อเข้าระบบ PA อย่างถูกต้อง
อัปเดตล่าสุด : 17/12/2025
กลองไฟฟ้าในยุคนี้ไม่ใช่แค่เครื่องซ้อมในห้องนอนอีกต่อไป แต่กลายเป็นอาวุธลับของมือกลองหลายวงบนเวที ทั้งคอนเสิร์ต ห้องจัดเลี้ยง ร้านอาหาร หรืองานอีเวนต์ต่าง ๆ เพราะให้เสียงที่คุมง่าย ไม่ต้องมิกซ์นาน และสามารถปรับโทนได้ตามสไตล์เพลงแบบเรียลไทม์แต่ปัญหาที่หลายคนมักเจอคือ เสียงที่ออกไปยัง PA ไม่เหมือนที่ตัวเองได้ยินตอนซ้อม หรือ เสียงบาง เบา เบี้ยว แตก เพราะการเชื่อมต่อไม่ถูกต้องบทความนี้จะพาคุณเข้าใจวิธีเชื่อมต่อกลองไฟฟ้าเข้าระบบ PA แบบ Step-by-step เพื่อให้เสียงสดของคุณออกมาคมชัด แน่น แบบมืออาชีพตั้งแต่ครั้งแรกที่ขึ้นเวที!
ทำความเข้าใจสัญญาณ Output ของกลองไฟฟ้า
กลองไฟฟ้าส่วนใหญ่มี Output หลักอยู่ 3 แบบ
กลองไฟฟ้าส่วนใหญ่มี Output หลักอยู่ 3 แบบ
-L/Mono + R – ใช้ต่อเข้ามิกเซอร์แบบสเตอริโอ
-Phones (ช่องหูฟัง) – ให้สัญญาณขยายแล้ว ไม่ควรใช้ต่อเข้ามิกเซอร์
-Direct Out (บางรุ่น) – แยกเสียงกลองแต่ละใบออกไปเลย เช่น Kick, Snare, Tom
สิ่งสำคัญคือให้ใช้ L/Mono เป็นหลัก หากมิกเซอร์มีช่องไม่พอ หรือไม่มีเหตุผลจำเป็นต้องสเตอริโอ
ควรใช้สายแบบไหนต่อเข้ามิกเซอร์ PA?
การเลือกสายคือหัวใจสำคัญ เพราะผิดแค่แบบเดียว เสียงพังทั้งงาน!
การเลือกสายคือหัวใจสำคัญ เพราะผิดแค่แบบเดียว เสียงพังทั้งงาน!
สายที่แนะนำ
-Balanced TRS to XLR → ดีที่สุด ลดสัญญาณรบกวน
-TRS to TRS → ถ้าต่อเข้ามิกเซอร์ที่มีช่อง TRS
-TS to TS → ใช้ได้ แต่เสียงรบกวนง่าย ไม่ใช้ในงานสำคัญ
ไม่ควรใช้เด็ดขาด
-สายหูฟัง (Headphone splitter)
-สาย AUX 3.5mm
-ต่อออกจากช่อง Phones
เพราะให้สัญญาณไม่เหมาะกับระบบเสียง PA ทำให้เสียงแตก เบา หรือเพี้ยนได้ง่ายมาก
การตั้งค่าเสียงในโมดูลเพื่อเล่นสด
กลองไฟฟ้าสมัยใหม่มีระบบเสียงที่ละเอียด แต่เมื่อต้องออก PA ควรตั้งค่าให้เหมาะกับเวทีจริงตั้งค่าให้เสียงชัด คม คุมง่าย
กลองไฟฟ้าสมัยใหม่มีระบบเสียงที่ละเอียด แต่เมื่อต้องออก PA ควรตั้งค่าให้เหมาะกับเวทีจริงตั้งค่าให้เสียงชัด คม คุมง่าย
-ลด Reverb ลงเหลือ 10–20% (เพราะ PA จะมี Reverb ของห้องอยู่แล้ว ถ้าใส่เยอะจะมัวและลอยเกินไป)
-เพิ่ม Attack ของ Kick เพื่อให้เสียงชัดตัดมิกซ์
-ลด Low-Mid ของ Snare เพื่อไม่ให้เสียงบวม
-ตั้ง Hi-Hat และ Cymbal ให้ไม่แหลมเกินไป เพื่อกันเสียงบาดหู
เลือก Preset สำหรับ Live ไม่ใช่ Studioหลายโมดูลจะมีชื่อชุดว่า
-Rock Live
-Rock Live
-Stage
-Power Kit
-Acoustic Set
ให้เลือกพวกนี้ก่อน เพราะถูกจูนมาให้ทะลุลำโพง PA โดยเฉพาะ
ทำ Soundcheck ให้ดีที่สุด
ขั้นตอนที่มือกลองส่วนใหญ่รีบจนข้าม แต่สำคัญที่สุดในงานเล่นสด
ขั้นตอนที่มือกลองส่วนใหญ่รีบจนข้าม แต่สำคัญที่สุดในงานเล่นสด
สิ่งที่ควรทำ
-เล่น Groove ปกติก่อน
-ตามด้วย Fill แบบจังหวะจริง
-ทดสอบ Kick, Snare, Tom ทีละชิ้น
-ตรวจว่าเสียงมีการดีเลย์หรือไม่
-บอกซาวด์แมนถ้าเสียงบางหรือหนาเกินไป
สิ่งที่ไม่ควรทำ
-ตีโชว์ลวดลายเยอะเกินไป
-ตีโชว์ลวดลายเยอะเกินไป
-เปลี่ยนเสียงกลองในโมดูลหลังซาวด์เช็ค
-ปรับ Volume เองหลังเซ็ตแล้ว
สรุป
การเล่นสดด้วยกลองไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเข้าใจการเชื่อมต่อและการปรับเสียงอย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคือใช้ Output แบบ L/Mono ใช้สาย TRS/XLR คุณภาพดี ตั้งค่าระดับเสียงและโทนให้เหมาะกับระบบ PA ทำ Soundcheck อย่างจริงจัง เมื่อทำครบทุกขั้นตอน เสียงกลองไฟฟ้าของคุณจะออกมาคมชัด หนักแน่น และพร้อมให้วง–ผู้ฟังได้ยินคุณในแบบที่ตั้งใจจริง ๆ บนเวทีทุกครั้ง
การเล่นสดด้วยกลองไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเข้าใจการเชื่อมต่อและการปรับเสียงอย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคือใช้ Output แบบ L/Mono ใช้สาย TRS/XLR คุณภาพดี ตั้งค่าระดับเสียงและโทนให้เหมาะกับระบบ PA ทำ Soundcheck อย่างจริงจัง เมื่อทำครบทุกขั้นตอน เสียงกลองไฟฟ้าของคุณจะออกมาคมชัด หนักแน่น และพร้อมให้วง–ผู้ฟังได้ยินคุณในแบบที่ตั้งใจจริง ๆ บนเวทีทุกครั้ง
